Thursday, November 09, 2006
ถ้าไม่ช่วย อีกไม่เกิน 3 เดือน วัดพระบาทน้ำพุต้องปิดลง !!!
ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ที่มีหลวงพ่ออลงกตเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านได้อุทิศตัวช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์และเด็กกำพร้ามาสิบกว่าปีแล้ว ทั้งๆที่ท่านมีพร้อมทุกอย่าง จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรจากออสเตรเลีย แต่ท่านก็เสียสละได้ เพียงเพราะท่านเห็นว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์นั้นไร้ที่พึ่งจริงๆ ขนาดบางคนพอพ่อแม่รู้ว่าติดเชื้อเอดส์ ยังรังเกียจและทอดทิ้งลูกของตัวเองได้เลย หลวงพ่อท่านเห็นว่า ถ้าท่านไม่ช่วยพวกเขาเหล่านี้ ท่านก็ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ได้
ทุกวันนี้ ที่วัดมีผู้ป่วยและเด็กกำพร้าที่หลวงพ่อต้องคอยดูแลรวมถึงพนักงานและอาสาสมัครราวหนึ่งพันคน ค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณสามล้านกว่าบาท แต่ยอดบริจาคกลับน้อยลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา เห็นว่าลดลงเหลือเพียงเดือนละสองแสนบาทเอง ส่วนรัฐบาลก็ช่วยเหลือเพียงเดือนละหนึ่งแสนบาทเท่านั้น
เคยโทรไปถามที่วัดเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน พนักงานก็บอกว่า รายรับเท่าเดิม แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน ค่ายารักษาหรือเพิ่มภูมิต้านทานก็แสนจะแพง แถมผู้ป่วยก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ทางวัดจะไม่รับก็ไม่ได้ เนื่องจากมีคนพาผู้บ่วยมาทิ้งไว้ที่หน้าประตูวัดเสมอ ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีทางไป ที่วัดก็เมตตาช่วยเหลือแม้กระทั่งคนชราและเด็กที่คนในครอบครัวเสียชีวิตเพราะเอดส์แล้วไม่มีใครดูแล
ตอนนี้ ต้องมีการส่งผู้ป่วยที่อาการดีแล้วและพอมีฐานะกลับบ้านบ้างแล้ว และอีกสามเดือนอาจต้องปิดตัวลง!!!!!!
หลวงพ่อเองต้องลงมาบิณฑบาตรที่กรุงเทพฯทุกสัปดาห์ ต้องไปหลายที่ต่อหนึ่งวัน เพราะรอคนไปช่วยเหลือถึงวัดไม่ไหว เห็นแล้วก็เหนื่อยแทนจริงๆ
เมืองไทยมีผู้ติดชื้อเอดส์มากเป็นอันดับสี่ของโลกแล้ว และแนวโน้มก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับอายุของผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ซึ่งกลับกลายเป็นว่าอายุน้อยลงทุกที อยากให้พวกเราเข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาของประเทศชาติและเป็นเรื่องของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกัน
พวกเราสามารถช่วยได้หลายรูปแบบ
ขณะนี้หลวงพ่อท่านมารับบริจาคทุกวันเสาร์
ตั้งแต่ 8.30 น. -10.00 น. ที่สวนลุมไนท์บาร์ซาร์
ข้างๆอาคารบีอีซี เทโร สามารถบริจาคเป็นเงิน (ดีที่สุด), ยา, ผ้าอ้อม, สำลี, ของอุปโภคบริโภคต่างๆ, หนังสือ, เสื้อผ้า ฯลฯ
หรือบริจาคผ่านธนาคารให้กับ " กองทุนอาทรประชานาถ " ถ้าสามารถทำเป็นรายเดือนได้จะดีมาก รายละเอียดของเบอร์บัญชีมีดังนี้
ธ.กรุงเทพฯ สาขาลพบุรี 289-0-84697-1
ธ.ทหารไทย สาขาลพบุรี 304-2-41277-9
ธ.กสิกรไทย สาขาถนนสุรสงคราม 174-2-39000-0
ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาลพบุรี 579-2-33730-7
ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาลพบุรี 111-1-47300-7
ธ.นครหลวงไทย สาขาลพบุรี 340-2-14976-0
ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานางเลิ้ง 000-2-12022-0
และสุดท้ายที่พวกเราสามารถช่วยได้เดี๋ยวนี้ คือ การบอกต่อถึงเรื่องนี้ และช่วยส่งเมล์นี้ไปให้คนที่รู้จักทุกๆคน
ขอขอบคุณแทนวัดพระบาทน้ำพุล่วงหน้าด้วยค่ะ
ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ที่มีหลวงพ่ออลงกตเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านได้อุทิศตัวช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์และเด็กกำพร้ามาสิบกว่าปีแล้ว ทั้งๆที่ท่านมีพร้อมทุกอย่าง จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรจากออสเตรเลีย แต่ท่านก็เสียสละได้ เพียงเพราะท่านเห็นว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์นั้นไร้ที่พึ่งจริงๆ ขนาดบางคนพอพ่อแม่รู้ว่าติดเชื้อเอดส์ ยังรังเกียจและทอดทิ้งลูกของตัวเองได้เลย หลวงพ่อท่านเห็นว่า ถ้าท่านไม่ช่วยพวกเขาเหล่านี้ ท่านก็ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ได้
ทุกวันนี้ ที่วัดมีผู้ป่วยและเด็กกำพร้าที่หลวงพ่อต้องคอยดูแลรวมถึงพนักงานและอาสาสมัครราวหนึ่งพันคน ค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณสามล้านกว่าบาท แต่ยอดบริจาคกลับน้อยลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา เห็นว่าลดลงเหลือเพียงเดือนละสองแสนบาทเอง ส่วนรัฐบาลก็ช่วยเหลือเพียงเดือนละหนึ่งแสนบาทเท่านั้น
เคยโทรไปถามที่วัดเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน พนักงานก็บอกว่า รายรับเท่าเดิม แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน ค่ายารักษาหรือเพิ่มภูมิต้านทานก็แสนจะแพง แถมผู้ป่วยก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ทางวัดจะไม่รับก็ไม่ได้ เนื่องจากมีคนพาผู้บ่วยมาทิ้งไว้ที่หน้าประตูวัดเสมอ ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีทางไป ที่วัดก็เมตตาช่วยเหลือแม้กระทั่งคนชราและเด็กที่คนในครอบครัวเสียชีวิตเพราะเอดส์แล้วไม่มีใครดูแล
ตอนนี้ ต้องมีการส่งผู้ป่วยที่อาการดีแล้วและพอมีฐานะกลับบ้านบ้างแล้ว และอีกสามเดือนอาจต้องปิดตัวลง!!!!!!
หลวงพ่อเองต้องลงมาบิณฑบาตรที่กรุงเทพฯทุกสัปดาห์ ต้องไปหลายที่ต่อหนึ่งวัน เพราะรอคนไปช่วยเหลือถึงวัดไม่ไหว เห็นแล้วก็เหนื่อยแทนจริงๆ
เมืองไทยมีผู้ติดชื้อเอดส์มากเป็นอันดับสี่ของโลกแล้ว และแนวโน้มก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับอายุของผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ซึ่งกลับกลายเป็นว่าอายุน้อยลงทุกที อยากให้พวกเราเข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาของประเทศชาติและเป็นเรื่องของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกัน
พวกเราสามารถช่วยได้หลายรูปแบบ
ขณะนี้หลวงพ่อท่านมารับบริจาคทุกวันเสาร์
ตั้งแต่ 8.30 น. -10.00 น. ที่สวนลุมไนท์บาร์ซาร์
ข้างๆอาคารบีอีซี เทโร สามารถบริจาคเป็นเงิน (ดีที่สุด), ยา, ผ้าอ้อม, สำลี, ของอุปโภคบริโภคต่างๆ, หนังสือ, เสื้อผ้า ฯลฯ
หรือบริจาคผ่านธนาคารให้กับ " กองทุนอาทรประชานาถ " ถ้าสามารถทำเป็นรายเดือนได้จะดีมาก รายละเอียดของเบอร์บัญชีมีดังนี้
ธ.กรุงเทพฯ สาขาลพบุรี 289-0-84697-1
ธ.ทหารไทย สาขาลพบุรี 304-2-41277-9
ธ.กสิกรไทย สาขาถนนสุรสงคราม 174-2-39000-0
ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาลพบุรี 579-2-33730-7
ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาลพบุรี 111-1-47300-7
ธ.นครหลวงไทย สาขาลพบุรี 340-2-14976-0
ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานางเลิ้ง 000-2-12022-0
และสุดท้ายที่พวกเราสามารถช่วยได้เดี๋ยวนี้ คือ การบอกต่อถึงเรื่องนี้ และช่วยส่งเมล์นี้ไปให้คนที่รู้จักทุกๆคน
ขอขอบคุณแทนวัดพระบาทน้ำพุล่วงหน้าด้วยค่ะ
" ร่วมทำบุญให้ไออุ่นแก่ชาวบ้าน "
Subject: ร่วมทำบุญให้ไออุ่นแก่ชาวบ้าน ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญซื้อผ้าห่มให้แก่ชาวบ้านหมู่บ้านห้วยหก ตำบลเมืองแหง จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านห้วยหก มีจำนวนทั้งหมด 260 หลังคาเรือน มีความสูงจากระดับ น้ำทะเล ปานกลางระหว่าง 1,200 – 1,300 เมตร และเนื่องจากเป็นพื้นที่สูงจึงมีอุณหภูมิหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 19 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนเมษายน 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในเดือนมกราคม 9 องศาเซลเซียส และในช่วงเดือนธันวาคม 2548 - มกราคม 2549 ที่ผ่านมาอุณหภูมิได้ลดลงต่ำสุด -0 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ชาวบ้านต้องประสบกับภัยหนาว ได้รับความยากลำบาก ไม่สามารถจัดหาผ้าห่มและเครื่องกันหนาวได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากมีฐานะยากจน รายได้น้อย เพราะส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา และมีการทอผ้าเป็นอาชีพเสริมเท่านั้น
ท่านผู้มีจิตศรัทธาอยากร่วมทำบุญสามารถโอนเงินมาได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่
ชื่อบัญชี “ภาคีความร่วมมือสนับสนุนการพัฒนา”(สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการใบเสร็จรับเงิน สามารถติดต่อได้นะค่ะ)ติดต่อสอบถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่> คุณเกด (กัญญาภัค) เจ้าหน้าที่โครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม มูลนิธิกองทุนไทย
โทรศัพท์ 081-425 0686 หรือ 02 314-4112-3 ต่อ 301
Email: jaidee@tff.or.th , jaidee.jaidee@hotmail.com
ทางมูลนิธิฯ ขอขอบคุณและขออนุโมทนาในบุญกุศลครั้งนี้ของท่านด้วยนะค่ะ http://www.thaingo.org/prboard_3/view.php?id=33
โดยคุณ : ป้านพ เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2549, 20:16 น.
Subject: ร่วมทำบุญให้ไออุ่นแก่ชาวบ้าน ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญซื้อผ้าห่มให้แก่ชาวบ้านหมู่บ้านห้วยหก ตำบลเมืองแหง จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านห้วยหก มีจำนวนทั้งหมด 260 หลังคาเรือน มีความสูงจากระดับ น้ำทะเล ปานกลางระหว่าง 1,200 – 1,300 เมตร และเนื่องจากเป็นพื้นที่สูงจึงมีอุณหภูมิหนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 19 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนเมษายน 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในเดือนมกราคม 9 องศาเซลเซียส และในช่วงเดือนธันวาคม 2548 - มกราคม 2549 ที่ผ่านมาอุณหภูมิได้ลดลงต่ำสุด -0 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ชาวบ้านต้องประสบกับภัยหนาว ได้รับความยากลำบาก ไม่สามารถจัดหาผ้าห่มและเครื่องกันหนาวได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากมีฐานะยากจน รายได้น้อย เพราะส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา และมีการทอผ้าเป็นอาชีพเสริมเท่านั้น
ท่านผู้มีจิตศรัทธาอยากร่วมทำบุญสามารถโอนเงินมาได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่
ชื่อบัญชี “ภาคีความร่วมมือสนับสนุนการพัฒนา”(สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการใบเสร็จรับเงิน สามารถติดต่อได้นะค่ะ)ติดต่อสอบถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่> คุณเกด (กัญญาภัค) เจ้าหน้าที่โครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม มูลนิธิกองทุนไทย
โทรศัพท์ 081-425 0686 หรือ 02 314-4112-3 ต่อ 301
Email: jaidee@tff.or.th , jaidee.jaidee@hotmail.com
ทางมูลนิธิฯ ขอขอบคุณและขออนุโมทนาในบุญกุศลครั้งนี้ของท่านด้วยนะค่ะ http://www.thaingo.org/prboard_3/view.php?id=33
โดยคุณ : ป้านพ เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2549, 20:16 น.
Tuesday, October 31, 2006
ทำบุญก็เหมือนการฝากเงินในธนาคาร พอถึงคราวเดือดร้อนก็ถอนมาใช้ โดยเฉพาะเมื่อเจ้ากรรมนายเวรมาทวง ถ้าต่อรองเจรจาคืนบุญเยอะๆ เจ้ากรรมนายเวรอาจจะอโหสิกรรมได้
ทำบุญก็เหมือนการฝากเงินในธนาคาร ฉลาดกิน ไร้โรคา ชีวิตพอเพียง ก็สุขเกินพอ
เลือกการทำบุญที่ถูกกับจริตของเรา หรือ เสริมในสิ่งที่เราขาด หรือ อธิฐานขออะไรก็ต้องเสริมเรื่องนั้น
เช่น เราไม่ค่อยชอบทำบุญกับพระเนื่องจากข่าวคราวของพระ แต่จริงๆแล้วทุกวงการมีดีและเลวปนกัน
ท่านก็ทำบุญ หรือ ทำทาน แทนซะ หลักการใหญ่ๆ คือ ทำ แล้ว Happy ซะอย่าง
มีรายชื่อมูลนิธิให้เลือกทำบุญตามความชอบ อาทิเช่น มูลนิธิชัยพัฒนา ของในหลวง เพราะฉะนั้นทุกบาททุกสตางค์ของท่านได้ช่วยเหลือบุคคลอื่นอย่างทั่วถึง แล้วคุณจะหนีบุญที่จะส่งจะเสริมคุณไปได้อย่างไรโดยเฉพาะท่านที่กับงานการเกี่ยวกับการประมูลกับราชการ ก็แนะนำไปทำบุญกับมูลนิธิที่ช่วยเหลือประชาชนโดยส่วนรวม เช่น
มูลนิธิชัยพัฒนา Chaipattana Foundation
ติดต่อ : สำนักงานเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ปณ. จิตรลดา กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๓โทรศัพท์ : o-๒๒๘๒-๓๓๓๘ โทรสาร : ๐-๒๒๘๒-๓๓๓๙
อีเมลล์ : webmaster@chaipat.or.th เว็บไซต์ : http://www.chaipat.or.th
แนะนำมูลนิธิ :พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำริ ให้จัดตั้ง "มูลนิธิชัยพัฒนา"เพื่อสนับสนุน การช่วยเหลือประชาชน ในรูปของการดำเนินการพัฒนาในด้านต่างๆ ในกรณีที่การดำเนินงานนั้นๆถูกจำกัดด้วย เงื่อนไขดังที่ได้กล่าวไว้แล้วหรือดำเนินงาน ในลักษณะอื่นใด ที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง รวดเร็วและไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องเงื่อนไขของเวลา กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานครได้รับจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิชัยพัฒนาให้เป็นนิติบุคคล ตามเลขทะเบียนลำดับที่๓๙๗๕ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๑ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่๑๐๕ ตอนที่ ๑๐๙ วันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑
วัตถุประสงค์ :เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการพัฒนาอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสงเคราะห์และ ช่วยเหลือประชาชนในด้านเศรษฐกิจ และสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและให้สามารถช่วย ตัวเองและพึ่งตนเองได้ ดำเนินการใดๆอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเป็น ส่วนรวม ร่วมมือกับส่วนราชการและ องค์กรการกุศล อื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์หรือดำเนินการเพื่อเน้นในการสนับสนุนสาธารณประโยชน์ ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมือง
กิจกรรมมูลนิธิ :การดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา จะเน้นกิจกรรม เพื่อการพัฒนาที่ไม่ซ้ำซ้อน กับแผนงาน โครงการของรัฐที่มีอยู่แล้วแต่จะพยายาม สนับสนุน ส่งเสริม และ ประสานการดำเนินงานเพื่อให้โครงการต่างๆ เกิดความสมบูรณ์และสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับสถานการณ์โดยเฉพาะ ในกรณีที่โครงการของรัฐ ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไข ของกฏระเบียบต่างๆอันเป็นผลทำให้โครงการนั้นๆ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงทีเช่นในกรณีที่อาจต้องจัดซื้อที่ดินจากราษฎรบางส่วน เพื่อดำเนินงานตามโครงการหนึ่งแต่รัฐมีปัญหา ด้านงบประมาณไม่เพียงพอในการจัดซื้อหรือมิได้ตั้งงบประมาณไว้ หรือ ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของระเบียบต่างๆทำให้ดำเนินการจัดซื้อไม่ได้ หรือต้องตั้งงบประมาณจัดซื้อ ใน ๑-๒ ปีข้างหน้าซึ่งจะทำให้โครงการล่าช้าไป เป็นต้นในกรณีเช่นนี้มูลนิธิชัยพัฒนา จะได้ช่วยเหลือตามความเหมาะสมเพื่อให้โครงการนั้นๆ ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด วิธีการดังตัวอย่างข้างต้นอาจนับได้ว่าเป็นวิวัฒนาการใหม่ ของแนวทางการพัฒนาประเทศที่มีมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะเป็นนิติบุคคลสาธารณประโยชน์ที่จะเข้ามาประสานงานร่วมมือสนับสนุน โครงการพัฒนาของรัฐ อย่างสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้โครงการที่มีปัญหานั้นๆสามารถดำเนินงานไปได้ โดยก่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และประเทศชาติ อย่างเต็มที่
อริยทรัพย์ - จะแนะนำการ ทำบุญสเดาะห์เคราะห์ในครั้งต่อไป
31 ตุลาคม 2549
ขออนุโมทนาแด่ท่านที่เสียสละ ขอให้เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติ คิดการสิ่งใดในการที่ดีจงสำเร็จดังใจปรารถนาด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
ทำบุญก็เหมือนการฝากเงินในธนาคาร ฉลาดกิน ไร้โรคา ชีวิตพอเพียง ก็สุขเกินพอ
เลือกการทำบุญที่ถูกกับจริตของเรา หรือ เสริมในสิ่งที่เราขาด หรือ อธิฐานขออะไรก็ต้องเสริมเรื่องนั้น
เช่น เราไม่ค่อยชอบทำบุญกับพระเนื่องจากข่าวคราวของพระ แต่จริงๆแล้วทุกวงการมีดีและเลวปนกัน
ท่านก็ทำบุญ หรือ ทำทาน แทนซะ หลักการใหญ่ๆ คือ ทำ แล้ว Happy ซะอย่าง
มีรายชื่อมูลนิธิให้เลือกทำบุญตามความชอบ อาทิเช่น มูลนิธิชัยพัฒนา ของในหลวง เพราะฉะนั้นทุกบาททุกสตางค์ของท่านได้ช่วยเหลือบุคคลอื่นอย่างทั่วถึง แล้วคุณจะหนีบุญที่จะส่งจะเสริมคุณไปได้อย่างไรโดยเฉพาะท่านที่กับงานการเกี่ยวกับการประมูลกับราชการ ก็แนะนำไปทำบุญกับมูลนิธิที่ช่วยเหลือประชาชนโดยส่วนรวม เช่น
มูลนิธิชัยพัฒนา Chaipattana Foundation
ติดต่อ : สำนักงานเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ปณ. จิตรลดา กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๓โทรศัพท์ : o-๒๒๘๒-๓๓๓๘ โทรสาร : ๐-๒๒๘๒-๓๓๓๙
อีเมลล์ : webmaster@chaipat.or.th เว็บไซต์ : http://www.chaipat.or.th
แนะนำมูลนิธิ :พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำริ ให้จัดตั้ง "มูลนิธิชัยพัฒนา"เพื่อสนับสนุน การช่วยเหลือประชาชน ในรูปของการดำเนินการพัฒนาในด้านต่างๆ ในกรณีที่การดำเนินงานนั้นๆถูกจำกัดด้วย เงื่อนไขดังที่ได้กล่าวไว้แล้วหรือดำเนินงาน ในลักษณะอื่นใด ที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง รวดเร็วและไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องเงื่อนไขของเวลา กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานครได้รับจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิชัยพัฒนาให้เป็นนิติบุคคล ตามเลขทะเบียนลำดับที่๓๙๗๕ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๑ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่๑๐๕ ตอนที่ ๑๐๙ วันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑
วัตถุประสงค์ :เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการพัฒนาอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสงเคราะห์และ ช่วยเหลือประชาชนในด้านเศรษฐกิจ และสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและให้สามารถช่วย ตัวเองและพึ่งตนเองได้ ดำเนินการใดๆอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเป็น ส่วนรวม ร่วมมือกับส่วนราชการและ องค์กรการกุศล อื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์หรือดำเนินการเพื่อเน้นในการสนับสนุนสาธารณประโยชน์ ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมือง
กิจกรรมมูลนิธิ :การดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา จะเน้นกิจกรรม เพื่อการพัฒนาที่ไม่ซ้ำซ้อน กับแผนงาน โครงการของรัฐที่มีอยู่แล้วแต่จะพยายาม สนับสนุน ส่งเสริม และ ประสานการดำเนินงานเพื่อให้โครงการต่างๆ เกิดความสมบูรณ์และสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับสถานการณ์โดยเฉพาะ ในกรณีที่โครงการของรัฐ ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไข ของกฏระเบียบต่างๆอันเป็นผลทำให้โครงการนั้นๆ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงทีเช่นในกรณีที่อาจต้องจัดซื้อที่ดินจากราษฎรบางส่วน เพื่อดำเนินงานตามโครงการหนึ่งแต่รัฐมีปัญหา ด้านงบประมาณไม่เพียงพอในการจัดซื้อหรือมิได้ตั้งงบประมาณไว้ หรือ ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของระเบียบต่างๆทำให้ดำเนินการจัดซื้อไม่ได้ หรือต้องตั้งงบประมาณจัดซื้อ ใน ๑-๒ ปีข้างหน้าซึ่งจะทำให้โครงการล่าช้าไป เป็นต้นในกรณีเช่นนี้มูลนิธิชัยพัฒนา จะได้ช่วยเหลือตามความเหมาะสมเพื่อให้โครงการนั้นๆ ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด วิธีการดังตัวอย่างข้างต้นอาจนับได้ว่าเป็นวิวัฒนาการใหม่ ของแนวทางการพัฒนาประเทศที่มีมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะเป็นนิติบุคคลสาธารณประโยชน์ที่จะเข้ามาประสานงานร่วมมือสนับสนุน โครงการพัฒนาของรัฐ อย่างสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้โครงการที่มีปัญหานั้นๆสามารถดำเนินงานไปได้ โดยก่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และประเทศชาติ อย่างเต็มที่
อริยทรัพย์ - จะแนะนำการ ทำบุญสเดาะห์เคราะห์ในครั้งต่อไป
31 ตุลาคม 2549
ขออนุโมทนาแด่ท่านที่เสียสละ ขอให้เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติ คิดการสิ่งใดในการที่ดีจงสำเร็จดังใจปรารถนาด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
Monday, October 23, 2006
การกรวดน้ำคือการตั้งใจอุทิศความดีที่เราได้บำเพ็ญมาให้แก่เพื่อนร่วมโลก น้ำที่รินไหลจากแก้วเป็นการสื่อความหมายว่า เราขออุทิศบุญกุศลของเราให้แก่ทั้งผู้ที่มียังมีชีวิตอยู่และผู้ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว
ยุคสมัยปัจจุบัน เป็นยุคที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องพบกับความขัดแย้ง การแข่งขัน ในแต่ละวัน จนเกิดความเครียด ความไม่สบายอกสบายใจ
การกรวดน้ำนอกจากจะเป็นการอุทิศความดีหรือบุญกุศลให้แก่ผู้อื่นแล้ว ยังเป็นกระบวนการช่วยผ่อนคลายความเครียดในชีวิตประจำวันให้หมดไป
จิตใจของเรามีความสุขสดชื่น มีกำลังใจเริ่มต้นวันใหม่ด้วย ความสดใสรื่นเริงเพราะการกรวดน้ำจะช่วยชำระความขุ่นข้องหมองใจ ความขัดแย้ง ความโกรธ และ ชำระความเศร้าหมองที่มีอยู่ในจิตใจของเราให้หมดสิ้นไปในแต่ละวัน
ช้าพเจ้า จึงขอเชิญชวนชาวพุทธรุ่นใหม่ ทุก ๆ เช้า-เย็น นำน้ำสะอาดมาหนึ่งแก้ว แล้ว ยิ้มให้กับตนเอง นึกถึงความดีที่ตนเองได้กระทำมา (เช่น ใส่บาตร ให้เงินขอทาน บริจาคสิ่งของ ช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ดูแลบิดามารดา ฯลฯ ) แล้วเริ่มทำการกรวดน้ำให้แก่เพื่อนร่วมโลกด้วยรอยยิ้ม ถึงบุคคลต่าง ๆ ตามคำแนะนำข้างล่าง ดังต่อไปนี้
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่ พ่อแม่ ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ และ คนดี ๆ ในสังคมไทย (ให้ระบุชื่อ)
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่ ญาติ มิตร สหาย ที่ข้าพเจ้ารัก ทุก ๆ คน (ให้ระบุชื่อ)
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่ เพื่อนร่วมโลกที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ทั้งหลาย ( เช่น อุทิศความดีให้เหยื่อความรุนแรงในปรากฏเป็นข่าวทีวี หรือ หนังสือพิมพ์ เหยื่ออาชญากรรม เหยื่อสงคราม หรือ สัตว์โลกที่ถูกเบียดเบียนทั้งหลาย )
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ( ระบุชื่อคนที่ไม่ชอบเรา หรือ คนที่เราไม่ชอบ เขาทั้งในอดีต และ ปัจจุบัน หรือ คนที่เรามีความขัดแย้งกับเขาในวันนี้ ฯลฯ )
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่เพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายทั้งปวงขอให้ท่านทั้งหลายจงมีความสุข ความร่มเย็น ได้พบกับสันติสุขไปตลอดกาลนาน เทอญ
ผลที่เราจะได้รับจากการปฏิบัติทุก ๆ วันเช่นนี้ จะทำให้เรามีความรู้สึกเมตตาต่อผู้อื่นมากขึ้น อันเป็นคุณธรรมพื้นฐานในใจที่จะทำให้เราหมดความเห็นแก่ตัว ความทุกข์ในใจของเราก็จะลดลงไปตามลำดับ
( ขออนุโมทนาขอบคุณชาวพุทธทุกท่านที่กรุณา Forward mail แนะนำการกรวดน้ำนี้ต่อ ๆ กันไป )
ยุคสมัยปัจจุบัน เป็นยุคที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องพบกับความขัดแย้ง การแข่งขัน ในแต่ละวัน จนเกิดความเครียด ความไม่สบายอกสบายใจ
การกรวดน้ำนอกจากจะเป็นการอุทิศความดีหรือบุญกุศลให้แก่ผู้อื่นแล้ว ยังเป็นกระบวนการช่วยผ่อนคลายความเครียดในชีวิตประจำวันให้หมดไป
จิตใจของเรามีความสุขสดชื่น มีกำลังใจเริ่มต้นวันใหม่ด้วย ความสดใสรื่นเริงเพราะการกรวดน้ำจะช่วยชำระความขุ่นข้องหมองใจ ความขัดแย้ง ความโกรธ และ ชำระความเศร้าหมองที่มีอยู่ในจิตใจของเราให้หมดสิ้นไปในแต่ละวัน
ช้าพเจ้า จึงขอเชิญชวนชาวพุทธรุ่นใหม่ ทุก ๆ เช้า-เย็น นำน้ำสะอาดมาหนึ่งแก้ว แล้ว ยิ้มให้กับตนเอง นึกถึงความดีที่ตนเองได้กระทำมา (เช่น ใส่บาตร ให้เงินขอทาน บริจาคสิ่งของ ช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ดูแลบิดามารดา ฯลฯ ) แล้วเริ่มทำการกรวดน้ำให้แก่เพื่อนร่วมโลกด้วยรอยยิ้ม ถึงบุคคลต่าง ๆ ตามคำแนะนำข้างล่าง ดังต่อไปนี้
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่ พ่อแม่ ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ และ คนดี ๆ ในสังคมไทย (ให้ระบุชื่อ)
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่ ญาติ มิตร สหาย ที่ข้าพเจ้ารัก ทุก ๆ คน (ให้ระบุชื่อ)
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่ เพื่อนร่วมโลกที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ทั้งหลาย ( เช่น อุทิศความดีให้เหยื่อความรุนแรงในปรากฏเป็นข่าวทีวี หรือ หนังสือพิมพ์ เหยื่ออาชญากรรม เหยื่อสงคราม หรือ สัตว์โลกที่ถูกเบียดเบียนทั้งหลาย )
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ( ระบุชื่อคนที่ไม่ชอบเรา หรือ คนที่เราไม่ชอบ เขาทั้งในอดีต และ ปัจจุบัน หรือ คนที่เรามีความขัดแย้งกับเขาในวันนี้ ฯลฯ )
ข้าพเจ้าขออุทิศความดีที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งสิ้น แด่เพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายทั้งปวงขอให้ท่านทั้งหลายจงมีความสุข ความร่มเย็น ได้พบกับสันติสุขไปตลอดกาลนาน เทอญ
ผลที่เราจะได้รับจากการปฏิบัติทุก ๆ วันเช่นนี้ จะทำให้เรามีความรู้สึกเมตตาต่อผู้อื่นมากขึ้น อันเป็นคุณธรรมพื้นฐานในใจที่จะทำให้เราหมดความเห็นแก่ตัว ความทุกข์ในใจของเราก็จะลดลงไปตามลำดับ
( ขออนุโมทนาขอบคุณชาวพุทธทุกท่านที่กรุณา Forward mail แนะนำการกรวดน้ำนี้ต่อ ๆ กันไป )
